ASIAN TOUR จัดคิวสคูล 3 ประเทศ ออสเตรเลีย สหรัฐฯ และไทย
เอเชียนทัวร์ เผยโปรแกรมการแข่งขันรอบคัดเลือกหรือเอเชียนทัวร์ ควอลิฟายอิ้ง สคูล 2024 จัดดวลวงสวิงสเตจแรก 6 สนามใน 3 ประเทศ ในช่วงระยะเวลา 5 เดือน เริ่มเปิดฉากชิงชัยปลายเดือนกันยายนนี้
เอเชียนทัวร์ ควอลิฟายอิ้ง สคูล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ ก่อนขยายฐานไปที่สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และปีนี้จะแข่งขันที่สหรัฐอเมริกาเป็นปีที่สองติดต่อกัน รวมทั้งเตรียมต้อนรับการกลับมาของออสเตรเลีย หลังห่างหายไป 17 ปี นับตั้งแต่มีการชิงชัยที่แครนเบิร์น กอล์ฟ คลับ เมื่อปี ค.ศ. 2006
การแข่งขันเอเชียนทัวร์ มีกำหนดชิงชัย 6 สนาม ประเดิมสนามแรกที่สนามเอ็มที เดอร์ริมุต กอล์ฟ แอนด์ คอมมูนิตี้ คลับ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 26-29 กันยายนนี้ ตามด้วยสนาม โซโบบา สปริงส์ กอล์ฟ คลับ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายนนี้
จากนั้นจะมาแข่งขันที่ประเทศไทย ณ สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม 2566 และสนามพัฒนา สปอร์ต รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม 2566 ส่วนสองสนามสุดท้ายของสเตจแรกจะแข่งขันพร้อมกันที่สนามฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ กรุงเทพ และสนามกรังด์ ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 9-12 มกราคมศกหน้า
ทั้งนี้แต่ละสนามแข่งขันสี่รอบ ผู้ที่คว้าแชมป์จากแต่ละสนามจะผ่านเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย หรือไฟนอล ควอลิฟายอิ้ง สเตจ ซึ่งจะแข่งขันที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-20 มกราคม 2567 โดยนักกอล์ฟที่ทำผลงานจบใน 35 อันดับแรก จะได้ตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในเอเชียนทัวร์ ฤดูกาล 2024 ในส่วนของสนามแข่งขันสเตจสุดท้าย เอเชียนทัวร์จะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
สำหรับควอลิฟายอิ้งสคูลสเตจสุดท้ายจะแข่งขันกัน 5 รอบ โดยหลังจบ 36 หลุมจะคัดเอานักกอล์ฟ 140 คนแรกหรือเสมอ ผ่านเข้าไปเล่นในรอบที่สามและรอบที่สี่ เพื่อคัดนักกอล์ฟ 70 คนแรกหรือเสมอเมื่อจบ 72 หลุม ผ่านเข้าไปชิงชัยในรอบสุดท้าย ซึ่งจะแข่งขันวันที่ 20 มกราคม 2567 และนักกอล์ฟที่ทำอันดับในท็อป 35 หลังจบ 90 หลุม จะได้สิทธิ์ลงเล่นในเอเชียนทัวร์ ฤดูกาล 2024
จากสถิติที่ผ่านมา นักกอล์ฟเอเชียนทัวร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดหลายคนกรุยทางมาจากรอบคัดเลือก ซึ่งรวมถึง ธงชัย ใจดี (ปี ค.ศ. 1999), กิรเดช อภิบาลรัตน์ (ปี ค.ศ. 2009) สองโปรกอล์ฟดาวดังของไทย สกอตต์ เฮนด์ จากออสเตรเลีย (ปี ค.ศ. 2007) และจอห์น แคตลิน โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน (ปี ค.ศ. 2018)