“Honda LPGA Thailand 2024" อีกหนึ่งความสำเร็จของวงการกอล์ฟหญิงไทย
ปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้วกับการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ที่การันตีความยิ่งใหญ่ตั้งแต่ก่อนเริ่มทีออฟ ด้วยมาตรฐานการจัดการแข่งขันเป็นที่ยอมรับ จัดมาก่อนหน้านี้ถึง 16 ครั้ง และด้วยการคืนสู่ฟอร์มได้เวลาของ แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ ทุกอย่างสมหวังเหมือนกับเขียนไว้ล่วงหน้าเมื่อ แพตตี้-ปภังกร ทำเบอร์ดี้หลุมสุดท้ายของการแข่งขันเฉือนชนะ อัลบอน วาเลนซูเอล่า โปรจากสวิตเซอร์แลนด์ ไปเพียงแค่สโตรกเดียว คว้าแชมป์เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันและเป็นแชมป์ที่ 2 ของนักกอล์ฟไทยใน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” หลังจาก เม-เอรียา จุฑานุกาล เคยทำได้เมื่อปี 2021
ศึกครั้งนี้ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านดอลลาร์ฯ (ราว 62 ล้านบาท) มีขึ้น ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พาร์ 72 ซึ่งถือเป็น Home of Honda มีนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขัน 72 คน เป็นนักกอล์ฟจาก Priority List 2023 จำนวน 70 คน และนักกอล์ฟรับเชิญ 12 คน แข่ง 72 หลุม ไม่มีการตัดตัว
แพตตี้-ปภังกร ออกสตาร์ทด้วยการทำ 5 อันเดอร์ ตามผู้นำ 3 สโตรก และขยับขึ้นมานำร่วมกับอีก 3 นักกอล์ฟ หลังจบรอบสองที่สกอร์รวม 10 อันเดอร์ จากนั้นก็นำเดี่ยวหลังจบรอบสามด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์ ทิ้งคู่แข่ง 3 สโตรก ก่อนที่ในรอบสุดท้ายจะปิดเกมด้วยการทำเบอร์ดี้หลุม 18 จบรอบนี้ที่ 5 อันเดอร์ สกอร์รวม 21 อันเดอร์ เฉือนชนะ อัลบอน
วาเลนซูเอล่า แค่สโตรกเดียว นับเป็นผลงานที่สุดยอดของเธอหลังจากหนึ่งปีที่แล้วในการเล่นรายการนี้นั้นเธอจบอันดับสุดท้าย โปรสาววัย 24 ปี คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการที่ 2 ให้กับตัวเองหลังจากเคยทำได้ในรายการเมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น 2021 และเป็นแชมป์ที่ 23 ที่นักกอล์ฟไทยทำได้ในแอลพีจีเอทัวร์
แพตตี้-ปภังกร กล่าวว่า เหมือนกับฝันที่เป็นจริงที่สามารถคว้าแชมป์ในแผ่นดินเกิดต่อหน้าพ่อแม่และแฟนกอล์ฟชาวไทย “ดีใจที่สามารถคว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนกอล์ฟชาวไทยและคุณพ่อคุณแม่ ขอบคุณทุกๆ คน รู้สึกโชคดีที่มีแฟนกอล์ฟและครอบครัวคอยสนับสนุน ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นผู้ชมและเคยเล่นในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นมาก่อน เป็นเหมือนความฝันที่ได้แชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ซาอุดีอาระเบียและสัปดาห์นี้ก็ได้แชมป์ที่ประเทศไทย การได้เล่นกับนักกอล์ฟที่ดีสุดในโลก และสามารถปิดท้ายได้อย่างสวยงาม”
นอกเหนือจากชัยชนะของ แพตตี้-ปภังกร แล้ว อีก 10 นักกอล์ฟไทยที่ลงแข่งขันครั้งนี้ต่างก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแม้เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาและได้ลงเล่นในฐานะนักกอล์ฟรับเชิญ แต่ก็สามารถทำผลงานได้ดีจนจบในท็อป 5 ได้ ว่าน-จารวี บุญจันทร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 นักกอล์ฟไทยที่ได้รับเชิญ จบที่ 9 ร่วม และ เม-เอรียา จบที่ 13 ร่วม ขณะที่ ฮัท-สุวิชยา วินิจฉัยธรรม ก็โชว์ฟอร์มสมศักดิ์ศรี แชมป์ Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers ด้วยการจบอันดับ 18 ร่วม ซึ่งนับเป็นอีกประสบการณ์สำคัญของนักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 17 ปี จากขอนแก่นรายนี้ที่จะก้าวเข้าสู่ระดับอาชีพต่อไปและในอนาคตเธออาจจะกลับมาลุ้นแชมป์ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพในรายการนี้อีกครั้งก็เป็นได้ หนึ่งในประสบการณ์สำคัญของเธอครั้งนี้ก็คือการได้ร่วมก๊วนกับ จิน ยอง โค อดีตนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกและแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ 15 รายการ ในการเล่นรอบที่สองซึ่งทำให้เธอได้เรียนรู้อย่างมากมายทั้งเทคนิคการเล่น การวางแผน และการควบคุมอารณ์
“เล่นครั้งนี้ก็ประทับใจมากค่ะ จัดงานดี คนเชียร์ก็เชียร์สนุก โดยรวม หนูประทับใจมาก ได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง และจะนำประสบการณ์ครั้งนี้ไปใช้ในการพัฒนาการเล่นให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ก็ต้องขอบคุณทางฮอนด้า ที่ให้โอกาสครั้งนี้ค่ะ” ฮัท-สุวิชยา กล่าว “เล่นกับจิน ยอง โค ก็เรียนรู้หลายอย่าง โดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์แม้ว่าหลายครั้งเขาจะตีเสียแต่เขาก็ไม่แสดงอาการใดๆ”
ชัยชนะของ แพตตี้-ปภังกร ครั้งนี้ นอกจากจะตอกย้ำถึงฟอร์มที่กำลังจะกลับมายอดเยี่ยมอีกครั้งของเธอหลังจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้เพิ่งได้แชมป์ในเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ก็ยังเป็นการปลุกกระแสวงการกอล์ฟหญิงเมืองไทยให้แรงตั้งแต่ต้นปี โดยการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับจากแฟนกอล์ฟเข้าชมถึงสนามตลอด 4 วันของการแข่งขันมากถึง 43,595 คน ซึ่ง มิสเตอร์ แมตต์ ชมูรา ประธานบริหารด้านการตลาดของแอลพีจีเอทัวร์ ถึงกับกล่าวชื่นชมในเรื่องนี้
“การสนับสนุนจากแฟนกอล์ฟในรายการนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในรายการที่ดีสุดในทัวร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นักกอล์ฟทุกคนก็ต้องการที่จะมาเล่นรายการนี้ ขณะที่สนามก็ถือว่าเป็นบททดสอบที่ดีสำหรับนักกอล์ฟอีกด้วย” มิสเตอร์ แมตต์ ชมูรา
กล่าว
ประธานบริหารด้านการตลาดของแอลพีจีเอทัวร์ กล่าวด้วยว่า ความสำเร็จของการจัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ครั้งที่ 17 นี้ จะทำให้ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจกับการแข่งขันกีฬากอล์ฟมากขึ้นอย่างแน่นอน และสิ่งสำคัญคือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟรุ่นใหม่ๆ
“นี่คือรายการที่นักกอล์ฟรุ่นใหม่ของไทยจะได้แข่งกับนักกอล์ฟชั้นนำของโลก และการได้เห็นนักกอล์ฟเหล่านี้เล่นหรือคว้าแชมป์ก็จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นอาชีพต่อไป และมีเยาวชนก้าวเข้าสู่กีฬากอล์ฟมากขึ้น”
เชื่อได้ว่าความสำเร็จครั้งนี้ทั้งภายในและภายนอกสนามจะช่วยเพิ่มกระแสความนิยมและเพิ่มประชากรกอล์ฟในประเทศให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องและที่สำคัญก็คือช่วยเติมเต็มและสร้างแรงบันดาลใจให้นักกอล์ฟเยาวชนมีความมุ่งมั่นในการที่จะฝึกฝนเพื่อก้าวตาม แพตตี้-ปภังกร รวมถึงนักกอล์ฟหญิงชั้นนำของโลกคนอื่นๆ ในอนาคต